เว็บเพจการศึกษา ความรู้เรื่อง นวัตกรรมใหม่ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีล้ำยุคล้ำสมัย เทคโนโลยีอนาคต เทคโนโลยีใหม่ วิทยาศาสตร์ก้าวหน้า โลกอนาคต อวกาศ จักรวาล
  หน้าแรกเว็บไซต์ สถาบันนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศูนย์ฝึกอบรมวิชาอาชีพ คอร์สเรียน โลกแห่งอนาคต วิทยาศาสตร์ล้ำยุค  

เว็บเพจการเรียนรู้นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีล้ำสมัยแห่งโลกอนาคต

หน้าแรกตอน กำเนิดโลก

นำเสนอโดย เอกสิริกุล
AKE Innovation Center
การเริ่มต้นเป็นนักวิทยาศาสตร์ ต้องฝึกตนเองให้เป็นนักคิดที่มีสติปัญญาและความสามารถ
เริ่มต้นจากความคิดสร้างสรรค์ และสร้างสติปัญญาในเชิงบวก และเชื่อมต่อกับแหล่งปัญญาอันยิ่งใหญ่จากเบื้องบน

ทุกสรรพสิ่งในจักรวาล ในทุกๆกาแล็คซี่อันกว้างใหญ่หาที่สิ้นสุดไม่ได้ ในดวงดาวทุกดวง และบนโลกใบนี้
ทั้งทุกสรรพสิ่งที่เรามองเห็น และมองไม่เห็น สามารถสัมผัสได้ และสัมผัสไม่ได้ และเราก็รู้ดีว่าสิ่งนั้นมีอยู่จริง
และต้องมีผู้ที่สร้างสรรพสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา และควบคุมมันอยู่ แน่นอนที่สุด ผู้สร้างนั้นจะต้องมีความฉลาดล้ำลึกซึ่งจะหาผู้ใดมาเปรียบเทียบไม่ได้เลย
สิ่งนั้นเป็นอัลฟ่า และโอเมก้า เป็นเบื้องตน และเบื้องปลาย เป็นปฐม และเป็นอวสาน เป็นอัจฉริยะแห่งการสร้าง
อัจฉริยะการสร้างผู้นั้นคือ
พระเจ้า God ผู้ทรงเป็นตรีเอกานุภาพ ผู้สร้างฟ้าสวรรค์ และแผ่นดินโลก จากคัมภีร์ใบเบิล ปฐมกาล บทที่ 1
นักวิทยาศาสตร์ นักคิดที่ชาญฉลาดย่อมทราบดีว่า หากคัมภีร์ใด หนังสือเล่มใด โกหกหลอกลวงตั้งแต่แรก ในบทแรก ข้อแรก หนังสือเริ่มนั้นก็จะไม่น่าเชื่อถือเลยตลอดทั้งเล่ม
และในเว็บเพจนี้ เราได้นำเสนอข้อมูลที่เป็นความจริงทุกประการ

ทุกสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างเป็นวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น และสามารถพิสูจน์ได้ หากมนุษย์ใช้ความเชื่อ และแสวงหาความจริง
ภายในระบบสุริยะจักรวาลของเรานี้ สิ่งแรกที่พระเจ้าทรงสร้างคือ ฟ้า และแผ่นดินโลก

โลกของเรา ไม่ได้เกิดมาจากสเก็ดของดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์เป็นเพียงกลุ่มก๊าซขนาดใหญ่เท่านั้น ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า
โลกเกิดขึ้นมาจากกลุ่มอุกาบาตที่วิ่งชนกัน ทำให้เกิดการรวมตัวของมวลสาร และความร้อนสูง เกิดการหลอมเหลวมวลต่างรวมตัวกันจนเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่
พระเจ้าสร้างโลกนี้ขึ้นมาก่อนดวงอาทิตย์ เพื่อให้เป็นที่อยู่ของมวลมนุษย์
พระองค์ใช้เวลาสร้างโลกอยู่นานถึง 4000 ล้านปี

การเนรมิต คำว่าเนรมิต
คุณที่เคยดูหนัง หรือภาพยนต์จอใหญ่หลายเรื่องมาแล้ว และต้องเป็นหนังที่เกี่ยวกับการอัศจรรย์ มักจะมีการเนรมิตเข้ามาเกี่ยวข้อง
การเนรมิตจากในภาพยนต์ จะมีการท่องคาถา และอาจมีการนำผงเคมี หรือสะสารบางอย่างนำมาเนรมิตให้เป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ เหมือนกับนักเล่นแร่แปรธาตุ
แต่การเนรมิตของพระเจ้า พระองค์ทรงสร้างสะสารต่างๆขึ้นมาด้วยพระองค์เอง แล้วนำสะสารต่างๆเหล่านั้นมาเนรมิตสร้างทุกสรรพสิ่งที่พระองค์ต้องการสร้างขึ่้น
เหมือนเราจะสร้างอะไรขึ้นมา ก็ต้อง วางแผน แล้วเขียนแบบ และเตรียมวัสดุในการสร้างต่างๆให้พร้อมใว้ แต่คำว่าเนรมิต มีอำนาจอัศจรรย์เข้ามาเกี่ยวข้องในการสร้าง

พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างกลุ่มวัตถุธาตุต่างๆ คือกลุ่มอุกาบาตขึ้นมาก่อน เพื่อการก่อสร้างดวงดาว และจักรวาล
ในกลุ่มธาตุเหล่านั้นนักวิทยาศาสตร์เรียกมันว่าลูกอุกาบาต ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิเคราะห์ส่วนประกอบภายในของลูกอุกาบาต และพบว่า
มีธาตุต่างๆอยู่มากมาย ทั้งของแข็ง ของเหลว และก๊าซต่างๆ ซึ่งแตกต่างกันไป และเป็นวัตถุที่มีอยู่ทั่วทั้งจักรวาล
กลุ่มธาตุขนาดเหล็กเราเรียกมันว่าลูกอุกาบาต กลุ่มธาตุขนาดใหญ่เราเรียกมันว่า ดาวเคราะห์น้อย
พระองค์ทรงสั่งให้กลุ่มธาตุเหล่านั้นวิ่งเข้าชนกัน และหลอมเหลวรวมตัวกันจนมีขนาดใหญ่ ภายในกลางโลก ยังคงร้อนอยู่ เราเรียกมันว่า แมกม่า หรือลาวาหลอมเหลว

การรวมตัวจากกลุ่มอุกาบาต จำนวนมหาศาลที่วิ่งชนกัน หลอมลวมกันจนมีขนาดใหญ่มาก และเกิดแรงดึงดูดมหาศาล เรียกว่า แรงโน้มถ่วง
กำเนิดเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ เราเรียกว่าโลก ให้เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ พืช และสัตว์นาๆชนิด


การทรงสร้างในวันแรก ปฐมกาล 1:1 การเนรมิตสร้างโลกและมนุษย์
พระเจ้าตรัสว่า จงเกิดความสว่าง ความสว่างนั้นก็เกิดขึ้น พระเจ้าเห็นว่าความสว่างนั้นดี และทรงแยกความสว่างออกจากความมืด
พระเจ้าทรงเรียกความสว่างนั้นว่า วัน และความมืดนั้นว่า คืน มีเวลาเย็น และเวลาเช้าเป็นวันแรก

หมายเหตุ
เมื่อโลกเกิดขึ้นมาในวันแรก ความสว่างที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ดวงอาทิตย์นะครับ พระเจ้ายังไม่ได้สร้างดวงอาทิตย์ขึ้นในการทรงสร้างวันแรก
แต่ความสว่างที่เกิดขึ้น มาจากพระสิริของพระเจ้า ที่ได้ฉายส่องให้กับโลกในครั้งแรก

 

โลกวิทยาศาสตร์ การกำเนิดโลก การเกิดขึ้นของโลก การสร้างโลก โลกมนุษย์ The World  Earth


การทรงสร้างในวันที่ 2 ปฐมกาล 1:1

พระเจ้าตรัสว่า จงมีภาคพื้นในระหว่างน้ำ แยกน้ำออกจากกัน พระเจ้าทรงสร้างภาคพื้นนั้นขึ้น แล้วทรงแยกน้ำที่อยู่ใต้ภาพพื้นออกจากน้ำที่อยู่เหนือภาคพื้น
ก็เป็นดังนั้น พระเจ้าจึงทรงเรียกภาพพื้นนั้นว่า ฟ้า มีเวลาเย็น และเวลาเช้า เป็นวันที่สอง

หมายเหตุ
พระเจ้าทรงสร้างพื้นขึ้นมา คือ พื้นดิน พื้นน้ำ พื้นฟ้า

ในพื้นฟ้าที่เราเรียกว่า ชั้นบรรยากาศ เป็นสิ่งที่ได้มาจากก๊าซภายในลูกอุกาบาต

องค์ประกอบหลักกว่า 78.08% ของอากาศเป็นก๊าซไนโตรเจน (N2) เป็นก๊าซเฉื่อย มีคุณสมบัติที่ไม่ทำปฏิกิริยาเคมีกับสารอื่น แต่เมื่อมีอะตอมเดี่ยวของมันแยกออกมาจะรวมเข้าเป็นองค์ประกอบของสารอื่น เช่น สารไนเตรท จะมีบทบาทสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต
และอีกกว่า 20.95% เป็นก๊าซออกซิเจน (O2) ส่วนหนึ่งเป็นผลผลิตจากการสังเคราะห์แสงของพืช, สาหร่าย, แพลงตอน และสิ่งมีชีวิต
อีกทั้งยังมีความว่องไวในการทำปฏิกิริยากับสารอื่น และช่วยให้ไฟติด ถ้าปริมาณของออกซิเจนในอากาศมีมากกว่า 35% โลกทั้งดวงจะลุกไหม้ติดไฟ ดังนั้นสิ่งมีชีวิตบนโลกจึงวิวัฒนาการให้มีสัตว์ ซึ่งใช้ออกซิเจนในการเผาผลาญธาตุอาหาร และคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ส่วนที่เหลืออีก 0.93% ก๊าซอาร์กอน (Ar) เป็นก๊าซเฉื่อยไม่ทำปฏิกิริยากับธาตุอื่น เกิดขึ้นจากการสลายตัว (ซากกัมมันตภาพรังสี) ของธาตุโปแตสเซียมภายในโลก
และอีก 0.036% เป็นในส่วนของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gas) แม้มีอยู่ในบรรยากาศเพียง 0.036% แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิต เนื่องจากก๊าซเรือนกระจกมีคุณสมบัติในการดูดกลืนรังสีอินฟราเรดซึ่งแผ่ออก จากโลก ทำให้โลกอบอุ่น อุณหภูมิของกลางวันและกลางคืนไม่แตกต่างจนเกินไป นอกจากนั้นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังเป็นแหล่งอาหารของพืช ส่วนที่เหลืออีก 0.01% เป็นในส่วนของก๊าซอื่นๆ โดยทั้งนี้สิ่งที่แสดงให้เราเห็นว่าในอากาศนั้นมีฝุ่นละอองอยู่ คือลำแสงที่ส่องไปในอากาศ โดยเราจะสังเกตพบว่ามีฝุ่นละอองลอยปะปนอยู่ในลำแสงนั้น

การทรงสร้างในวันที่ 2 ปฐมกาล 1:1

พระเจ้าตรัสว่า น้ำที่อยู่ใต้ฟ้าจงรวมอยู่แห่งเดียวกัน ที่แห้งจงปรากฎขึ้น ก็เป็นดังนั้น
พระเจ้าทรงเรียกที่แห้งนั้นว่าแผ่นดิน และที่ซึ่งน้ำรวมกันเรียกว่าทะเล พระเจ้าทรงเห็นว่าดี

วิทยาศาสตร์ การกำเนิดทะเล มหาสมุทร น้ำ แม่น้ำลำคลอง แผ่นดินภูเขา ท้องฟ้า น้ำในอากาศ ก้อนเมฆ แผ่นดินโลก การสร้างกำเนิดโลก

เมื่อผิวของโลกยังร้อนอยู่ ส่วนของธาตุน้ำภายในอุกาบาต ความร้อนทำให้น้ำกลายเป็นก๊าซ คือไอน้ำลอยตัวขึ้นปลกคลุมอยู่ทั่วเหนือผิวโลกเป็นชั้นบรรยากาศ
เมื่อผิวโลกเย็นตัวลง กลุ่มก๊าซเหล่านั้นก็กลั่นตัวกลายเป็นน้ำฝนจำนวนมหาศาลตกลงมายังพื้นโลก
น้ำปกคลุม 71% บนพื้นผิวโลก และเป็นปัจจัยสำคัญต่อชีวิต น้ำบนโลก 96.5% พบในมหาสมุทร 1.7% ในน้ำใต้ดิน 1.7% ในธารน้ำแข็งและชั้นน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกาและเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นเศษส่วนเล็กน้อยบนผิวน้ำขนาดใหญ่ และ 0.001% พบในอากาศเป็นไอน้ำ ก้อนเมฆ ก่อตัวขึ้นจากอนุภาคน้ำในสถานะของแข็งและของเหลวแขวนลอยอยู่บนอากาศ และน้ำบนโลกเพียง 2.5% เป็นน้ำจืด และ 98.8% ของน้ำจำนวนนั้นพบในน้ำแข็งและน้ำใต้ดิน น้ำจืดน้อยกว่า 0.3% พบในแม่น้ำ ทะเลสาบ และชั้นบรรยากาศ และน้ำจืดบนโลกในปริมาณที่เล็กลงไปอีก (0.003%) พบในร่างกายของสิ่งมีชีวิตและผลิตภัณฑ์

 

การทรงสร้างในวันที่ 3 ปฐมกาล 1:1

พระเจ้าตรัสว่า แผนดินจงเกิดพืช คือผักหญ้าที่มีเมล็ด และต้นไม้ที่ออกผล มีเมล็ดในผลตามชนิดของมันบนแผ่นดิน ก็เป็นดังนั้น
แผ่นดินก็เกิดพืช คือผักหญ้าที่มีเมล็ดตามชนิดของมัน และต้นไม้ที่ออกผลมีเมล็ดในผลตามชนิดของมัน
พระเจ้าทรงเห็นว่าดี มีเวลาเย็น และเวลาเช้าเป็นวันที่สาม

วิทยาศาสตร์ การกำเนิดพืชพันธุ์ไม้ ต้นไม้ พืชผัก เมล็ดพันธุ์ไม้ต่างๆ อาหารของมนุษย์

พระเจ้าได้ทรงวางแผนการสร้างพื่ชพันธุ์ต้นไม้ขึ้นนาๆชนิด เพื่อให้เป็นที่อยู่ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย และพื่ชผลของพันธุ์ไม้ต่างๆ ให้เป็นอาหารของสัตว์นาๆพันธุ์

 

การทรงสร้างในวันที่ 4 ปฐมกาล 1:1

พระเจ้าตรัสว่า จงมีดวงสว่างบนท้องฟ้า เพื่อแยกวันออกจากคืน ให้ดวงสว่างเป็นหมายกำหนดฤดู วัน ปี และให้ดวงสว่างบนฟ้า เพื่อส่องสว่างบนแผ่นดิน ก็เป็นดังนั้น
พระเจ้าได้ทรงสร้างดวงสว่างขนาดใหญ่ใว้สองดวง ให้ดวงใหญ่ครองวัน ดวงเล็กครองคืน พระองค์ทรงสร้างดวงดาวต่างๆด้วย
พระเจ้าทรงตั้งดวงสว่างเหล่านี้ใว้บนฟ้า ให้ส่องสว่างบนแผ่นดิน ให้ครองวันและคืน และแยกความสว่างออกจากความมืด
พระเจ้าทรงเห็นว่าดี มีเวลาเย็น และเวลาเช้าเป็นวันที่ สี่

วิทยาศาสตร์ ดวงดาว จักรวาล การกำเนิดแสงสว่าง ความสว่าง การกำเนิดดวงอาทิตย์ โลกและดวงจันทร์ ความสว่างเวลาค่ำคืน กลางคืนและกลางวัน โลกแห่งความสว่าง พระเจ้าทรงสร้างโลกมนุษย์ และสร้างดวงดาว

หมายเหตุ
ในวันที่สี่ของการทรงสร้าง เบื้องต้นข้าพเจ้ารับไม่ได้ เพราะ พระเจ้าทรงสร้างพืชพันธ์ไม้ขึ้นมาก่อนสร้างดวงอาทิตย์
ซึ่งมันขัดกับหลักความเป็นจริงตามที่เราได้เรียนรู้มาแล้วนั้น ต้นไม้ต้องการแสงอาทิตย์เพื่อการเจริญเติบโต
แต่พระเจ้ายังไม่ได้ทรงสร้างดวงอาทิตย์ แล้วต้นไม้จะเติบโตได้อย่างไรกัน
เข้าพเจ้าจำเป็นต้องเชื่อในคัมภีรใบเบิล เพราะถ้าไม่จริง ไม่มีมูล หรือเป็นเรื่องเขียนที่ไร้สาระ หนังสือคัมภีร์ใบเบิลก็ไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป
ข้าพเจ้าจึ่งได้ทำการค้นคว้า และศึกษาข้อมูลเชิงลึกในเวลาต่อมา และ ณ ปัจจุบัน ข้าพเจ้าเชื่อว่าเป็นไปตามที่คัมภีร์กล่าวใว้ทุกประการ
เนื่องจาก ในวันแรกที่พระเจ้าได้สร้างโลก พระเจ้าตรัสว่า จงเกิดความสว่าง
ความสว่างนั้นมาจากพระสิริของพระเจ้า พระองค์ทรงเลี้ยงดูพืชพันธุ์ไม่ต่างๆ ตอนนี้ข้าพเจ้าไม่สงสัยเลยว่าต้นไม้เจริญพันธุ์ และเติบโตขึ้นได้อย่างไรโดยที่ไม่มีดวงอาทิตย์

คำภีร์กล่าวว่า ดวงใหญ่ครองวัน ดวงเล็กครองคืน
ในสมัยนั้น ผู้เขียนพระคัมภีร์คือ โมเสส เขียนใว้ว่าดวงใหญ่ครองวัน ดวงเล็กครองคืน ดวงอาทิตย์ เป็นดาวดวงใหญ่มาก และอยู่ห่างไกลจากโลกไกลมาก ถ้ามองจากโลกไปจะเห็นดวงอาทิตย์ดวงเล็กนิดเดียว แต่โมเสสไม่ได้มองด้วยตา แต่เขียนจากการทรงนำที่มาจากพระเจ้า
และเห็นดวงจันทร์ในเวลากลางคืน ซึ่งถ้ามองด้วยสายตาแล้ว ดวงจันทร์ใหญ่กว่าดวงอาทิตย์มากนัก แต่โมเสสเขียนว่า ดวงเล็กครองคืน
ซึ่งในความเป็นจริง ดวงอาทิตย์ดวงใหญ่มาก เมื่อเทียบกับดวงจันทร์ เที่ยบกันไม่ได้เลย โมเสสไม่ได้เขียนคัมภีร์จากการมองเห็นด้วยสายตาเลยครับ

การทรงสร้างในวันที่ 5 ปฐมกาล 1:1

พระเจ้าตรัสว่า น้ำจงอุดมด้วยฝูงสัตว์ที่มีชีวิต และนกจงบินไปมาข้ามฟ้าเหนือแผ่นดิน
พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ และสัตว์ที่มีชีวิตนานาชนิด ซึ่งแหวกว่ายอยุ่ในน้ำ เป็นฝูงๆตามชนิดของมัน
พระเจ้าทรงเห็นว่าดี พระเจ้าจึงทรงอวยพรแก่สัตว์เหล่านั้นว่า จงมีลูกดกทวีมากขึ้น จนเต็มน้ำในทะเล และให้นกทวีมากขึ้นบนแผ่นดิน
มีเวลาเย็น และเวลาเช้าเป็นวันที่ห้า

วิทยาศาสตร์ การกำเนิดของสัตว์ทะเล สัตว์น้ำ นกในอากาศ ชีวิตสัตว์ใต้ท้องทะเลลึก สรรพสิ่งใต้ท้องทะเลอันกว่างใหญ่ มหาสมุทร น้ำทะเล หาดทราย พระเจ้าทรงสร้างใว้

พระเจ้าตรัสว่า แผ่นดินจงเกิดสัตว์ที่มีชีวิตตามชนิดของมัน คือสัตว์ใช้งาน สัตว์เลี้อยคลาน และสัตว์ป่าตามชนิดของมัน ก็เป็นดังนั้น
พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ป่าตามชนิดของมัน สัตว์ใช้งานตามชนิดของมัน และสัตว์ต่างๆที่เลื้อยคลานตามชนิดของมัน
แล้วพระเจ้าทรงเห็นว่าดี

วิทยศาสตร์ การกำเนิดของสิ่งมีชีวิต สัตว์เล็กใหญ่ สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์บก สัตว์ป่าทุกชนิด สัตว์เลี้ยงสัตว์ใช้งาน พันธุ์สัตว์ต่างๆทั่วโลก

จะเห็นได้ว่า พระเจ้าทรงวางแผน และออกแบบควบคุมให้สภาวะของโลกนี้ เหมาะสมกับการสร้างชีวิตทุกชีวิตบนโลกใบนี้
เราทั้งหลายรู้แต่เพียงผิวเผินว่า ธรรมชาติสร้างโลกขึ้นมาเอง
ทุกท่านลองใช้วิจารณญาณ
คิดดูถึงเหตุผลต่างๆที่จะเกิดการสร้างได้อย่างมีระเบียบ และอัศจรรย์ยิ่งนัก
ในทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นมาในโลกนี้ ถ้ามันเกิดขึ้นมาเองได้จริง มันต้องกระจักกระจายอย่างไม่มีระเบียบ และไม่สามารถควบคุมได้
แต่ในทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ มีระเบียบแบบแผนที่ซับซ้อนมากมาย เกินกว่าที่มนุษย์จะสามารถเข้าใจได้ถึงการกำเนิดเกิดขึ้น
ในทางวิทยาศาสตร์ สิ่งมีชีวิตต่างๆ เกิดขึ้นจากเซลล์เดียวก่อน และมีการพัฒนามาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีโคลงสร้างสลับซับซ้อน ยากเกินทำความเข้าใจ
นักวิทยาศาสตร์จากนาซ่า ทราบดีกันว่า พระเจ้าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างทุกสรรพสิ่งบนโลก

 

การทรงสร้างในวันที่ 6 ปฐมกาล 1:1

แล้วพระเจ้าตรัสว่า ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาตามอย่างของเรา
ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศและฝูงสัตว์ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไป และสัตว์ต่างๆที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน
พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น
พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น และได้ทรงสร้างให้เป็นชาย และหญิง

วิทยาศาสตร์ การกำเนิดของมนุษย์โลก มนุษย์คู่แรก อาดัม อีฟ เอวา กำเนิดมนุษย์ พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์มาจากผงคลีดิน และลมปราณที่พระเจ้าประทานชีวิตให้มนุษย์มีลมหายใจ

แล้วพระเจ้าทรงอวยพรแก่มนุษย์ ตรัสแก่เขาว่า จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน
จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในอากาศ กับบรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดิน
พระเจ้าตรัสว่า
ดูเถิด เราให้พืชที่มีเมล็ดทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ทั่วพื้นแผ่นดิน และต้นไม้ทุกชนิดที่มีเลม็ดในผลของมันแก่เจ้า เป็นอาหารของเจ้า
ฝ่ายสัตว์ทั้งหลายบนแผ่นดิน นกทั้วปวงในอากาศ และบรรดาสัตว์เลื้อยคลานบนแผ่นดินทุกสิ่งทุกอย่างที่มีลมปราณนั้น
เราให้พืชเขียวสดทั้งปวงเป็นอาหาร ก็เป็นดังนั้น
พระเจ้าทรงทอดพระเนทตสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างใว้ ทรงเห็นว่าดีนัก มีเวลาเย็น และเวลาเช้า เป็นวันที่หก
ฟ้า และแผ่นดิน และบริวารทั้งสิ้นที่มีอยู่ในนั้น พระเจ้าทรงสร้างสำเร็จดังนี้แหละ

การทรงหยุดพักงานในวันที่ 7 ปฐมกาล 1:1

ในวันที่เจ็ด พระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ที่ทรงกระทำมานั้น ในวันที่เจ็ดนั้นก็ทรงพักการทำงานทั้งสิ้นของพระองค์ที่ได้ทรงกระทำ
พระเจ้าจึงทรงอวยพรแก่วันที่เจ็ด ทรงตั้งใว้เป็นวันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์
เพราะในวันนั้น พระองค์ทรงหยุดพักจากการทำงานทั้งปวงที่พระองค์ทรงกระทำในวันเนรมิตรสร้าง

หมายเหตุ
วันเวลาของพระเจ้า แตกต่างจากวันเวลาของมนุษย์ ใน 1 วันของพระเจ้าอาจยาวนานจนนับไม่ได้ และมนุษย์ไม่สามารถที่จะเข้าใจ
ตามเวลาของมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ได้คำนวณอายุของโลกมาจากชั้นดิน ชั้นหิน และสรุปว่าโลกมีอายุ 4000 ล้านปี หรือมากกว่านั้น
แต่พระเจ้าสร้างโลกใช้เวลาเพียง 6 วัน แต่นั้น เป็นวันเวลาของพระเจ้าที่บอกผ่านมายังโมเสส ผู้เขียนคัมภีร์ใบเบิล
ทั่วโลกจะมีเวลาทำงานเหมือนกัน 6 วัน ในวันที่ 7 ทุกคนจะหยุดพักงาน เกือบทุกประเทศทั่วโลกมีวันหยุดงานในวันอาทิตย์ เหมื่อนดังที่พระเจ้าทรงทำงาน
และเมื่อกาลเวลาผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
หากว่า อ๊อกซิเจนในอากาศถูกเปลียนแปลงส่วนผสมไปมากกว่านี้ โลกอาจลุกไหม้เป็นไฟได้ และมนุษย์ก็ไม่สามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้
พระเจ้าสร้างโลกใน 6 วัน และหยุดพักงานในวันที่ 7 และจนถึงปัจจุบันพระองค์ก็ทรงควบคุม และดูแลโลกนี้อยู่เสมอ

พระองค์เป็นพระผู้สร้าง และพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์
มนุษย์จึงมีความคิดสร้างสรรค์สรรพสิ่งเป็นจำนวนมาก แต่สติปัญญาของมนุษย์มีความฉลาดที่ไม่สามารถเทียบเทียมกับพระเจ้าได้เลย
ต่อให้นำมนุษย์ที่มีความฉลาดที่สุดทั้งโลก มารวมกันทั้งหมด ก็ไม่สามารถเที่ยบเท่าได้กับความโง่เขลาของพระเจ้าได้เลย

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมนุุษยต้องการสร้างงาน
สิ่งแรกที่มนุษย์ต้องทำก่อนการสร้างงาน คือการศึกษา เรียนรู้ และฝึกฝน มนุษย์ จึงต้องสร้างสติปัญญา และแสวงหาความรู้ ฝึกฝนทักษะความสามารถขึ้นมาก่อน
จะเกิดอะไรขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ที่เรียกว่านวัตกรรม จากเทคโนโลยี
ในทุกสรรพสิ่งของเทคโนโลยี ปัจจัยที่เกิดขึ้นมานั้น ก็มาจากการทรงสร้างของพระเจ้าทั้งสิ้น
สิ่งที่มนุษย์ยังไม่สามารถสร้างได้ คือสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นด้วยพระองค์เองทั้งสิ้น
แม้แต่เม็ดทรายเพียงเม็ดเดียว หรือเซลล์สิ่งมีชีวิตเพียงเซลล์เดียว มนุษย์ก็ยังไม่สามารถสร้างมันขึ่้นมาเองได้เลย แม้แต่จะก๊อปปี่ก็ยังทำไม่ได้เลยนะครับ
มนุษย์ที่มีความฉลาด มีวิจารณญาณ เขาจะไม่พูดว่าทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ เกิดขึ้นมาโดยธรรมชาติ

เพราะในคัมภีร์ใบเบิลได้กล่าวใว้แล้วทั้งสิ้นเกี่ยวกับการทรงสร้าง
บทความสำคัญอ้างอิงมาจากหนังสือ พระคัมภีร์ไบเบิล ปฐมกาล บทที่ 1 การทรงสร้างวันที่ 1 ถึงวันที่ 7

คลิกดู วีดีโออ้างอิงตอนที่ 1 จากนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก เรื่องจักรวาลเกิดขึ้นได้อย่างใร ใครอยู่เบื้องหลังการสร้างโลก
คลิกดู
วีดีโออ้างอิงตอนที่ 2 ท่องจักรวาล ตอนพระเจ้า และเอกภพ

คลิกลิงค์ด้านล่างเพื่อเข้าสู่การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์

คลิกลิงค์ ดวงอาทิตย์ พลังงานความร้อนจากแสงแดง        

ในตอนต่อไป จะเป็นเรื่องการสร้างของมนุษย์ จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างจากการสร้างของมนุษย์บนโลกใบนี้
โปรดติดตามกันต่อไป รอการอับเดทข้อมูล และเรื่องต่างๆเพิ่มเติม
โอกาสหน้า กลับมาหาเราใหมนะครับ



หากท่านสงสัยต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อผู้เขียนได้ทาง Line ID : ake007online

ไม่อนุญาติให้คัดลอก หรือดัดแปลงบทความนี้เพื่อนำไปเผยแพร่ต่อ

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพรบ กฏหมายลิขสิทธิ์

สงวนลิขสิทธิ์ การออกแบบหน้าเว็บเพจเว็บไซต์สไตล์หน้าแรก index โดยAKE เอกสิริกุล ผู้ออกแบบ และเจ้าของลิขสิทธิ์ ห้ามคัดลอกเรียนแบบ ห้ามดัดแปลงใดๆในรูปแบบของหน้า Index